ไฟดับ

ณ. คืนหนึ่ง ขณะที่ดิฉันกำลังเพลิดเพลินกับการท่องเว็บอยู่นั้น จู่ๆเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก้อเกิดขึ้น เหตุการณ์นั้นมันช่างน่ากลัวมาก เป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลให้ดิฉันหายใจไม่ออก ฮือ เฮื้อก เอือก คึค นี่ยังติดอาการอยู่เลยน่ะค่ะ อ่า..อยากรู้แล้วล่ะสิว่าเกิดอะไรขึ้น!! มันคือ..คือ.. “ไฟดับ” มันก้อแค่ไฟดับ ทำเป็นตื่นเต้นไปได้(อาจจะมีหลายคนคิดแบบนี้) ค่ะ..อาจมีหลายคนที่เห็นว่าไฟดับ เป็นเรื่องเล็กๆ แต่สำหรับดิฉันแล้ว มันคือเรื่องใหญ่ เพราะสิ่งที่มาพร้อมกับไฟดับนั้นมันคือความมืด ดิฉันไม่ชอบความมืด เพราะความมืดมันทำให้ดิฉันหายใจไม่ออก ทันทีที่ไฟดับดิฉันรีบไปหาแสงสว่างทันที ดิฉันมองไปรอบๆตัว แต่มองไปด้านไหนก้อเจอแต่ความมืด หันซ้ายก้อมืด หันขวาก้อมืด หน้าก้อมืด และหันหลังยังมืดเลย ขนาดหมุนไปสามร้อยแปดสิบองศาก้อเจอแต่ความมืด (แน่อ่ะดิ ก้อไฟดับนี่หนา) แต่ถึงแม้ว่าไฟในบ้านจะดับมืด แต่เมื่อชะเง้อหน้าออกไปทางหน้าต่าง ดิฉันก้อได้เห็นกับแสงไฟจากดวงไฟกลางถนนที่ยังคงเปล่งแสงสว่างอยู่เพียงดวงเดียว แสงไฟนั้นพอที่จะทำให้ดิฉันหายใจออกได้บ้าง ระหว่างที่ดิฉันกำลังใจหาย เอ้ย..หายใจอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น ก้อมีสิ่งหนึ่งแว้ปเข้าสมองดั่งไวรัสที่แทรกเข้าคอมฯ (เว่อร์) สิ่งนั้นก้อคือ “ความคิด” ในท่ามกลางที่ทุกคนในบ้านกำลังชลมุนในการหาไฟฉาย เทียนและแสงสว่างชนิดต่างๆอยู่นั้น แต่ดิฉันนั่งเงียบริมหน้าต่างคนเดียว รอหั้ยมีผู้อุปการะคุณยื่นเทียนมาให้ซักเล่ม..(ช่างเห็นแก่ตัวสิ้นดีเลยน่ะ) ค่ะ..ในตอนนั้นดิฉันเกิดความคิดหนึ่ง
………ในท่ามกลางความมืดมิดที่มาจากการไฟดับนั้น มันจะสามารถสู้กับความมืดมิดของหลุมฝังศพได้หรือไม่ แล้วถ้าตอนนี้เราเกิดตายไปโดยที่ไม่เตรียมพร้อมอะไรเลย เราจะดำรงอยู่ในหลุมฝังศพในสถานะไหน จะอยู่ท่ามกลางความมืดกี่ร้อยพันเท่าของความมืดจากไฟดับนี้ ความมืดมิดในวันนี้เรายังสามารถได้ยินเสียงชลมุนของทุกคนในบ้าน แต่ความมืดมิดของหลุมฝังศพสิ จะได้ยินเสียงใครบ้างมั้ย มันคงเป็นบรรยากาศที่น่ากลัวกว่าไฟดับในวันนี้เป็นหลายร้อยพันเท่าซิน่ะ
........นอกจากตัวดิฉันเองแล้ว ดิฉันคิดว่ายังมีประชาชาติอิสลามอีกหลายต่อหลายคนที่ยังไม่เตรียมพร้อมเพื่อไปสู่ความตาย ณ.วันนี้ยังมีอีกหลายคนที่ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับโลกดุนยามากกว่าการตระเตรียมเสบียงเพื่อไปสู่โลกอาคีรัต บางคนวันๆ คิดได้แค่ว่า คืนนี้ละครอะไรน่ะ เมื่อไหร่พระเอกกับนางเอกจะคืนดีกันน่ะ ตอนนี้มีแฟชั่นอะไรใหม่ๆ หั้ยอัปเดตกันบ้างน่ะ และอีกฯลฯ เฮ้อ..
จากข้อความหนึ่งที่ดิฉันได้อ่านเจอ มันเป็นประโยชน์ต่อดิฉันมาก และคิดว่า มันก้อน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านหลายคนเหมือนกัน ซึ่งได้เขียนว่า <<<ท่านรอซุ้ล ได้กล่าวไว้ว่า “ผู้ที่นึกถึงความตายมากที่สุดในหมู่พวกเขา และมีการเตรียมตัวเพื่อเผชิญกับเหตุการณ์หลังความตาย อย่างดีที่สุด บุคคลนั้นคือผู้ที่มีสติปัญญามากที่สุด”>>>
.......ค่ะ..ดิฉันไม่รู้ว่าน่ะค่ะว่า บทความนี้จะให้ประโยชน์อะไรแก่ผู้อ่านบ้าง แต่สิ่งที่ดิฉันได้จากบทความนี้นั่นก้อคือ ทุกคนควรรำลึกถึงการตายอยู่เสมอ เราไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าความตายจะมาเยือนเราเมื่อไหร่ และเมื่อเราตายไปจะมีครัยรู้บ้างว่า ชีวิตในหลุมฝังศพจะเป็นยังงัย จะพอมีแสงสว่างจากดวงไฟดวงไหนบ้าง ดังนั้นเมื่อเราคิดได้แบบนี้แล้ว ก้อจงรีบตักตวงความดีเพื่อเป็นเสบียงสู่โลกอาคีรัต รีบทำตั้งแต่วินาทีนี้เลยน่ะค่ะ ก่อนที่คุณจะไม่มีแม้แต่เสี้ยววินาทีที่จะทำ จงจำเสมอว่า “ทำดีไม่มีเดี๋ยว”
วัสลาม

0 ความคิดเห็น:



แสดงความคิดเห็น

มีอะไรจะติชม เชิญค่ะ