tips สร้างคูชัวะในการละหมาด

อัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺวะบารอก่าตูฮฺ

ค่ะ..สำหรับวันนี้ดิฉันก้อมี tips สร้างคูชัวะในการละหมาด หลายคนอาจจะทราบดีน่ะค่ะว่าทุกการอีบาดัตของเราต้องควบคู่ไปกับการนียัตและความอิคลาซ (ความบริสุทธ์ใจ) แต่ถ้าทุกวันเราละหมาดไม่เคยขาดแต่การละหมาดของเรามีแค่การซูหยูดและการรุกัวะแต่ปราศจากความคูชัวะ นั่นก้อหมายถึงว่าการงานที่คุณได้ทำนั้นสูญเปล่าไป โดยที่คุณไม่รู้ตัวเลย หรือไม่ที่ร้ายแรงกกว่านั้นก้อคือ คุณอาจจะอยู่ในจำพวก “ชีริกเล็ก” หรือพวกที่ทำอีบาดัตเพื่อการโอ้อวด นาอูซูบิลลาฮฺมินซาลิก
ค่ะ..ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะทำยังงัยให้เราคูชัวะในการละหมาดนั้น ก้อเชิญอ่านสิ่งที่ดิฉันจะนำเสนอต่อไปนี้น่ะค่ะ รับรองได้ผล เพราะดิฉันลองใช้วิธีดังกล่าวมาด้วยตัวเองแล้ว แฮะ แฮะ!! บอกตามตรงน่ะค่ะ ว่าบางครั้งดิฉันก้อไม่ค่อยคูชัวะในการละหมาดเช่นเดียวกัน งั้นเรามาอ่านพร้อมกันเลยดีกว่าน่ะ
1. ตามองที่สูหยูด

2. จิตจับอยู่ที่ริมฝีปากว่ากำลังอ่านอะไรอยู่สำหรับซูเราะฮฺที่รู้คำแปล ให้นึกตาม และวาดเป็นภาพในสมองตามไปด้วยสำหรับซูเราะฮฺที่ไม่รู้คำแปล ให้นึกตามว่าเรากำลังอ่านอักษรอะไรอยู่นึกภาพอักษรนั้น ๆ ตามไปด้วย (ไม่ต้องทุกตัวหรอก เอาแค่ให้จิตจับอยู่กับที่ก็พอ)

3. เมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ ให้คิดนำหน้าการกระทำของตัวเองว่ากำลังจะทำอะไรต่อไป เช่น รูกัวะ ก็ให้คิดก่อนว่าเดี๋ยวจะยกมือแล้วนะยกแล้วคิดต่อว่าเดี๋ยวจะเอามือลงแล้วนะ หรือ ซูหยูดให้คิดก่อนว่าเดี๋ยวจะลงไปซูหยูดแล้วนะตามลำดับ
...อินชาอัลลอฮฺ ละหมาดไม่สูญเปล่า เพราะอัลลอฮฺจะไม่มองดูการงานที่เราไม่ใส่ใจค่ะ
ปล. จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องละหมาดอย่างเดียว น่ะค่ะ เรานำไปใช้กับกิจกรรมอื่นๆในชีวิตประจำวันได้ด้วย โดยให้ตัวเองรู้ตัวตลอดว่า เวลานี้กำลังทำอะไรอยู่ เท่านี้การงานเราก้อจะไม่สูญเปล่าแล้วล่ะค่ะ....อินชาอัลลอฮฺ
วัสลามค่ะท่านผู้อ่านที่ศรัธทายิ่งทุกคน

สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "อุคุวะฮฺ"


ณ. ห้องสี่เหลียมๆ แห่งหนึ่งในค่ำคืนวันจันทร์ เอ๊ะ..คืนนี้วันพุธนี่หนา อ่อ..ในค่ำคืนวันที่ไม่ใช่อิสลาม(วันพุธ) หลังจากที่ละหมาดมัฆริบเสร็จ ระหว่างที่ดิฉันกำลังรอเสียอาซานของวักตูอีซาอยู่นั้นดิฉันก้อคิดอะไรเรื่อยเปื่อยพร้อมกันนั้นดิฉันก็หายใจไปด้วยน่ะ(แล้วจะบอกทำไม!!) และแล้วในระหว่างที่สมองของดิฉันกำลังทำงานอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น สายตาของดิฉันก็เหลือบไปเห็นกองวารสารกองหนึ่งเป็นวารสารโรตีมะตะบะ ที่เก็บมานานตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่1 (เกินไปมั้ง) ดิฉันจึงหยิบมาอ่านซักเล่มเพื่อประดับความรู้...ซ่ะงั้น ดิฉันอ่านไปเรื่อยๆ จนพลิกไปเจอบทความเรื่องหนึ่ง เป็นบทความที่ทำให้เราได้รู้จักกับคำว่า “อุคุวะฮฺ” อย่างลึกซึ้ง หลังจากที่ดิฉันอ่านไปได้ครึ่งหน้า ดิฉันก็นึกได้ว่า ดิฉันน่าจะเผยแพร่ให้พี่น้องมุสลีมีนมุสลีม๊ะที่น่ารักได้อ่านกันด้วย อ่า..เห็นด้วยล่ะสิ ค่ะ..รู้สึกว่าจะพูดมากไปซ่ะแล้ว งั้นเราไปอ่านบทความกันเลยดีกว่าน่ะค่ะ 5..4..3..2..1..แอ๊คชั่น
อุคุวะฮฺ คือ อะไร?? งั้น..บอกให้ก้อได้ค่ะว่า..
อุคุวะฮฺ คือ คำที่มีมากกว่า คำว่า “มิตรภาพ” ลึกซึ้งเกินกว่าคำว่า “เพื่อน” ยาวนานเกินกว่า “อายุขัย” และแน้นแฟ้นยิ่งกว่า “ความเป็นพี่น้องในสายเลือด”
อุคุวะฮฺ คือ ความรู้สึกเป็นพี่น้องในอิสลาม ซึ่งมีผลกระทบต่อความศรัทธาและจะถูกคำนวณออกมาเป็นผลคะแนนและการตอบแทนในที่สุด
อุคุวะฮฺ คือ การยึดมั่นในสายเชือกแห่งอัลลอฮฺ
อุคุวะฮฺ คือ การที่เขาเจ็บแล้ว...เราเจ็บกว่า
อุคุวะฮฺ คือ มีที่ไหนก้ออบอุ่นใจที่นั้น
อุคุวะฮฺ คือ คำที่ทำให้คำว่า “คนอื่น” ถูกนำมาใช้น้อยลง
อุคุวะฮฺ คือ ความร่วมมือและการสนับสนุน ในการทำกิจกรรมดี-ดี เช่นการสร้างทีมงานคอลีฟะห์บนหน้าแผ่นดิน และช่วยกันจัดทำโครงการระดับโลก ซึ่งก้อคือ “โครงการชักชวนคนทำความดี และห้ามปรามคนทำความชั่ว”
อุคุวะฮฺ คือ การที่เราไม่หลงลืมที่จะดุอาห์ให้แก่กัน และการยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือ
อุคุวะฮฺ คือ พื้นฐานการสร้างสังคมและกลุ่มญามาอะห์
อุคุวะฮฺ คือ สายสัมพันธ์ที่เชื่อมกันระหว่างอุมมะฮฺอิสลาม
อุคุวะฮฺ คือ การที่อยากย้ำเตือนกันว่า อย่าทะเลาะกัน อย่างอนกัน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหันหน้าเข้าหากัน
ความเข้มแข็งของอุมมะฮฺอิสลาม
อุคุวะฮฺ คือ ความเป็นหนึ่งเดียวและการก้าวไปพร้อมกัน
อุคุวะฮฺ คือ สิ่งที่ช่วยลดภาวการณ์สร้างมัสยิดสองหลังในหมู่บ้านเดียวกัน
อุคุวะฮฺ คือ เมื่อใดที่ “ที่ร่วมกันหรือไม่ร่วมกัน” ที่มีผลทำให้วงแตก จะไปโทษแก๊สโซฮอล์ไม่ได้
อุคุวะฮฺ คือ คนที่ฝากบอกว่ามุสลิมที่ไร้ระเบียบ จะถูกทำลายด้วยศัตรูที่มีระบบ
อุคุวะฮฺ คือ จุดเริ่มต้นของความรัก รอยยิ้ม ความห่วงใยและสิ่งดีๆมากมายในโลกนี้
อุคุวะฮฺ คือ ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากบอกว่า การโต้เถียงกันจะนำไปสู่ความแตกแยก และจะเป็นช่องทางการถูกแทรกแซงได้ง่ายขึ้นเท่านั้นเอง..
สุดท้าย.. “อยากให้มุสลิมกลับมารักกันเหมือนเดิม”
ปล. “เมื่อเกิดความรู้สึกไม่เข้าใจกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคือ...การไม่มีการปรับความเข้าใจระหว่างกันนั่นเอง”

ค่ะ...หลังจากที่ทุกคนได้อ่านบทความนี้จบแล้ว หวังว่าทุกคนจะคิดเหมือนกับดิฉันน่ะค่ะ คำว่า “อุคุวะฮฺ” ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ความหมายที่ว่าพี่น้องเท่านั้น แต่ความหมายมันช่างล้นเหลือเกินคำบรรยายจริงๆ เนาะฆอยะวีตาฮูแดะห์ แต่หากว่ายังมีบางคนที่อ่านบทความนี้จบ แต่ยังไม่เข้าใจในความหมายของคำว่า “อุคุวะฮฺ” เลยซักนิดเดียว ดิฉันคิดว่าคุณคงจะเป็นคนที่มีความคิดที่คับแคบสุดขั้วหรือไม่ก็กว้างไกลสุดขีด แต่ไม่เป็นไรค่ะ คุณยังพอมีทางแก้ ทางแก้ทางเดียวที่คุณสามารถทำได้นั่นก้อคือ คุณต้องหมั่นเข้าชมบทความในเว็บนี้บ่อยๆ แล้ว อาการของคุณน่าจะดีขึ้น (ว้า....ออกแนวโปรโมทซ่ะแล้ว) ทำไงได้ล่ะ ก็ของเค้าดีจริงนี่(ยังไม่หยุดอีก) อืม...สงสัยดิฉันคงต้องขอตัวแค่นี้ก่อนน่ะค่ะ จะไปรักษาอาการฟาแซ(หลงตัวเอง)ที่กำลังกำเริบอยู่ตอนนี้แล้วล่ะค่ะ ไปน่ะค่ะ แล้วพบกันใหม่ หากเป็นความประสงค์ของอัลลอฮฺ.......
วัสลามสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าอุคุวะฮฺทุกคนค่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++