ทั้งๆที่……


ทั้งๆที่ต้องใช้สายตาเหมือนกัน.........
แต่โทรทัศน์ก็เป็นที่ๆเราพร้อมจะเสียเวลาเพ่งมอง
มากกว่าตำแหน่งสุญูดในการละหมาด

ทั้งๆที่ต้องใช้สมาธิอ่านเหมือนกัน..........
แต่หนังสือนิยายก็เป็นที่ดึงดูดใจเรา
มากกว่าอัลกรุอาน

ทั้งๆที่ต้องเสียเวลาขยับปากเหมือนกัน....
แต่การพูดคุยกับมนุษย์ผ่านโทรศัพท์ก็เป็นที่คุ้นเคยของเรา
มากกว่าการพูดคุยกับอัลลอฮฺผ่านดุอาห์

ทั้งๆที่ต้องใช้โสตประสาทการได้ยินเหมือนกัน
แต่เสียงเพลงก็ยังเป็นที่พอใจของเรา
มากกว่าเสียงอัลกรุอาน

ทั้งๆที่ต้องลุกขึ้นยามดึกเหมือนกัน
แต่ฟุตบอลก็เป็นที่ชื่นชอบของเรา
มากกว่าการตื่นละหมาดตะฮฺญุด

ทั้งๆที่ต้องใช้การเกาะติดข้อมูลเหมือนกัน
แต่ข่าวคราวของดารานักร้องเกาหลีก็เป็นที่สนอกสนใจของเรา
มากกว่าข่าวคราวของพี่น้องมุสลิมในอิรัก


ทั้งๆที่เราต้องใช้หัวใจเพื่อรำลึกถึงเหมือนกัน
แต่เรากลับมีความสุขเมื่อได้รำลึกถึงผู้ที่ถูกสร้าง
มากกว่าผู้สร้าง

ทั้งๆที่เราต่างรู้ว่าเวลาในโลกนี้นั้นมีจำกัด
แต่ก็ยังใช้มันไปอย่างขาดทุนอยุ่ดี

ทั้งๆที่เราต่างรู้ว่าวันหนึ่งเราจะต้องตาย
แต่เราก็ยังไม่เตรียมตัวเพื่อพบกับมันจริงๆจังๆสักที

แท้ที่จริงแล้วการงานที่ทำให้เราใกล้ชิดกับอัลลอฮฺนั้นไม่ได้ยากเกินไปเลย ความรู้สึกของเราถูกปรุงแต่งโดยสังคมต่างหากทำให้มันดูยากเกินไป

วันนี้ของหนุ่มสาวแห่งอิสลาม

มุสลิมทุกคนไม่อาจจะปฎิเสธในประโยคนี้น่ะค่ะ สำหรับประโยคที่ว่า"อิสลามเข้มแข็งและยิ่งใหญ่" แต่วันนี้ไม่เหมือนดังเช่นวันวานค่ะ กล่าวคือ...ครัยหลายคนกล่าวว่าเราถูกทำลายด้วยศัตรูของอิสลาม แต่หารู้ไม่ว่าจิตใจเราอ่อนแอ จึงร่วมทำลายตัวเราเอง
ปัจจุบันกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวใช้ชีวิตในลักษณะของปัจเจกชนใช้ชีวิตอยู่เพื่อแสวงหาความสุขให้กับตนเองขาดอุดมการณ์และเป้าหมายในการดำเนินชีวิต ไม่เห็นคุณค่าการเสียสละหรือใช้ชีวิตเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น สังคมมุสลิมกำลังบาดเจ็บและกำลังเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร้ว สิ่งที่ต้องการคือการเยียวจากกลุ่มคนในสังคมอย่างเร่งด่วนและพลังที่ได้รับจากหนุ่มวัยรุ่นสาวจะเป็นพลังมาหาศาล ประดุจคลื่นลูกใหม่ที่ซัดซาดปัญหา และจรรโลงสังคมมุสลิมให้ไปในแนวทางที่ดีกว่านี้ได้ สิ่งที่สังคมมมุษย์ต้องการคือบัณทิต แค่วันนี้เยาวชนมุสลิมคิดอะไร เยาวชนมุสลิมเคยคิดใหมว่าเราเกิดมาทำไม เกิดเพื่อใคร แล้วใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ให้ประสบผลสำเร็จได้อย่างไร ตายแล้วไปใหน ใครรับผิดชอบ ตอบได้ใหมหละ ที่น่าน่ากลัวที่สุดคือคำตอบว่า "ไม่รู้" ซึ่งไม่ควรเป็นคำตอบของเรา ผู้ซึ่งเป็นเยาวชนมุสลิมที่มีทางนำชัดเจน คือ " อัลกุรอ่าน และ แบบอย่างที่ดีของท่านบีมุฮัมมัด
เยาวชนมุสลิมที่รัก การที่มุสลิมตกต่ำอยู่ทุกวันนี้เพราะเยาวชนมุสลิมในปัจจุบันยังคงเดินตามแบบอย่างของประชาชาติอื่นที่คอยจ้องทำลายเราวางกับดักให้เรา ให้เราไปติดแล้วก็ทิ้งอุดมการณ์ แนวทาง ทัศนคติ แบบอย่างตัวเองเสียหมด แล้วหันไปตามวิถีชีวิตที่พวกอุปโลกน์ว่า สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับกันทั่วโลกนับว่าเป็นสากลที่ประชาคมโลกต้องปฏิบัติตามและสุดท้ายจิตวิญญานและร่างกายจึงยอมศิโรราบให้แก่ อุดมการณ์และแนวทางที่อุปโลกน์นี้อย่างหูหนวก ตาบอด เยาวชมมุสลิมที่รัก เป็นเช่นนี้หรือไม่ คิดอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เยาวชนมุสลิมที่รัก อย่าลืมว่าเราถูกส้รางมาเป็นแบบอย่างที่ดีเลิศให้ประชาชาติอื่นๆๆ ได้เห็นคุณลักษณะที่ดีงาม และปฏิบัติตามเราแต่ขณะนี้กลับตรงกันข้ามไปเสียแล้วหรือ แต่จำได้ว่าไม่มีคำว่าสายไปสำหรับการฟื้นฟู ตราบใดยังมีการ
"ศรัทธา" แม้มันจะเลือกที่อันน้อยนิดในจิตใจ เราต้องเรียกความเข้มแข็งของเรากลับคืนมาให้ได้ ซึ่งอันที่จริงมันไม่ได้หายไปใหน เพียงแค่เราลืมมันไว้ในความทรงจำ
คำพูดของเบาวชนมุสลิมหลายๆๆคน คงบอกว่ามันคงเหนื่ยและยากยิ่งที่จะฟื้นฟูอิสลามให้กลับมาเกรียงไหรเหมือนเดิม ความจริงจุดที่ยากที่สุดคือ
"การที่เราเริ่มอย่างจริงจังนั่นเอง" เราต้องกล้า….กล้าที่จะทำแน่นอนอุปสรรคต้องเกิดขึ้น แต่ทั้วหมดคือบททดสอบของพระเจ้า
เยาวชนมุสลิมที่รักทั้งหลาย วันนี้คุณกำลังคิดอะไรอยู่ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เยาวชนทั้งหลายจะรวมพลังกันจัดตั้งชมรมต่างๆๆของมุสลิม เช่น สมาคม องค์กรต่างๆๆให้สอดคล้อง ตามหลัก กุรอ่านและซุนนะฮฺ เป้าหมายของอิสลามเราไม่ได้ต้องการให้นักศึกษาต้องลาออกจาก มหาวิทยาลัย แต่ต้องการให้เรียนรู้อย่างเท่าทันกันและชี้ให้เห็นอัตรายพร้อมทั้งหาทางแก้ไขสิ่งต่างๆ ที่สวนทางให้อยู่ในแนวทางของอิสลาม ไม่ว่าวันนี้ เยาวชนทั้งหลายกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ในฐานะที่วันนี้เราคือผู้แสวงหาวิชาความรู้ จงใช้เวลาอันมีค่าน้อยนิดอย่างเต็มที่ พิจรณาถึงชีวิตที่ผ่านมาของท่าน และจำเป็นเตรียมตัวเองสำหรับเรื่อง…..อนาคต
เยาวชนที่รักยิ่งทั้งหลาย จะมีประโยชน์อะไรถ้าความรู้ที่เราศึกษาเล่าเรียนมาตลอดชีวิต ไม่ได้ทำให้หัวใจของเราได้รู้จักและประกาศความย่งใหญ่ของอัลลอฮฺ จะมีประโยชน์อะไรถ้เรายังอ่อนแอเกินกว่าจะควบคุมอารมณ์ใฝ่ต่ำของเรากับเรื่องที่"ไร้สาระ"
ความสำเร็จอาจไม่ได้เกิดขึ้นในวันพรุ้งนี้และพระองค์นั้นมิได้พิจารณาเฉพราะที่ความสำเร็จ หากแต่พิจารณาจากความพยายามและความเข้มแข็งของเราต่อพระองค์และพวกของเราทุกคนจะต้องตั้งความหวังเอาไว้ว่า
"เรานี่แหละคือ ความหวังของมนุษย์ชาติ"

แด่วัยรุ่นด้วยดวงใจ

เยาวชนคนหนุ่มสาวกับความฉลาดหลักแหลมและรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยม การโฆษณาชวนเชื่อ และแผนการอันชั่วร้ายของอเมริกา

ท่านทั้งหลายจงอย่าได้ประหวั่นครั่นคร้ามและเกรงกลัวต่ออำนาจอันชั่วร้ายของอเมริกา แต่จงหวาดหวั่นต่อแผนการอันชั่วร้ายของมันเถิด และจงช่วยกันทำลายล้างแผนการร้ายของมันให้พังพินาศเถิด มาตรว่าแผนการร้ายเหล่านั้นพยายามที่จะเข้ามาสิงสถิตอยู่ในใจกลางมหาวิทยาลัยของพวกท่านเพื่อต้องการที่จะทำลายคุณค่าและจิตวิญญาณของพวกท่าน เป็นภาระหน้าที่โดยตรงของพวกท่านผู้เป็นคนหนุ่มคนสาวที่จะต้องช่วยกันปกป้องและกำจัดให้หมดสิ้นไป

เยาวชนคนหนุ่มสาวของเราพึงตระหนักและระลึกอยู่เสมอด้วยการไม่คล้อยตามและหลงใหลไปกับคารมอันปลิ้นปล้อนของชนบางกลุ่ม ยาพิษที่ถือเป็นอาวุธมหาประลัยที่พวกเขาจะใช้ทำลายล้างก็คือ การทำให้คนหนุ่มสาวของเราสิ้นหวังจากการปฏิวัติ

เยาวชนคนหนุ่มสาวของเราพึงตระหนักเถิดว่า ทุก ๆ กระบวนท่าแห่งการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อทำลายภาพลักษณ์อิสลาม แสดงถึงการโฆษณาชวนเชื่อที่มาจากเบื้องบนผู้เป็นนักปอกลอกและปล้นสะดมโดยอาศัยบริวารหรือผ่านน้ำมือของสมุนรับใช้ของพวกมัน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำลายล้างอิสลามให้สิ้นซากนั่นเอง

หนึ่งวัน ... ของหนุ่มสาว


วันนี้ คิดถึง รู้บ้างไหม.....ทำอะไร ทำไม ไม่ติดต่อ
ตื่นตอนไหน ไม่โทรบอก คนเฝ้ารอ....จ้องแต่จอ โทรศัพท์ นับเวลา
กินข้าวยัง หรือไป ไหนมาบ้าง......สารพัดอย่าง สรรหา มาไต่ถาม
ไร้สาระ พูดคุย ไม่นับความ….หลงตาม ชัยฏอน ทุกวันวาน
หนุ่มถาม สาวตอบ มิเชือนช้า.....ไม่สน นาฬิกา ที่วนผ่าน
ลืมหน้าที่ ลืมเวลา ลืมวันวาน......ลืมกรุอาน ทางนำ สอนอย่างไร
ลืมไปว่า หนุ่มสาว ต้องขับเคลื่อน.....ลืมฟังคำ ตักเตือน ใจมืดไหม้
ลืมนึก ว่าตัวเอง นั้นเป็นใคร.......มีหน้าที่ อย่างไร ต่ออิสลาม
ลืมแล้วว่า วันนี้ ทำสิ่งใด......ต้องนำไป ตอบคำถาม ในวันหน้า
ลืมว่าขาด ทุนกับ กาลเวลา……เพราะดวงตา และหัวใจ เมินทางนำ
เพราะหลงสิ่ง ผู้ปฏิเสธ หยิบยื่นให้..หลงคิดไป ว่าอินเทรนด์ นำแฟชั่น
หลงว่าที่ คนหมู่มาก กระทำกัน……คือสิ่งนั้น ไม่อนุมัติ ในอิสลาม
เอาอย่างอื่น มาชี้ถูก กับศาสนา…....เพียงเพราะว่า ตอบเอง มิไต่ถาม
แค่คุยเอ็ม มิเห็นหน้า แค่ข้อความ……แค่ไต่ถาม ผ่านมือถือ แค่นั้นเอง
แค่ซ้อนท้าย เพราะต้องไป ทางเดียวกัน..ประหยัดน้ำ มันตามรัฐ แนะนำไว้
แค่ไปส่ง เพราะผู้หญิง มิปลอดภัย....แค่ติวให้ เพราะเราเรียน รู้ร่วมกัน
คงลืมไป ว่าแค่นั้น ที่บอกไว้……..คือเข้าใกล้ ซินา ผิดมหันต์
คงลืมว่า อิสลาม คือป้องกัน.........มิใช่การ แก้ไข เมื่อสายเกิน
ทบทวน ทบทวน ตัวเองใหม่.........แล้วตั้งใจ หยุดมันเถิด หนุ่มสาวเอ๋ย
อย่าหลงตาม ชัยฏอน ชี้นำเลย……….อย่านิ่งเฉย กับการทำ ตามนัฟซู
การอภัย พระผู้สร้าง ให้เสมอ……แค่เพียงเธอ บอกพระองค์ ผู้ทรงรู้
แล้วหยุดสิ่ง ที่เคยทำ ตามนัฟซู……..เร่งเชิดชู ทางนำ ของอิสลาม
อย่าลืมว่า พวกเธอ คือความหวัง…….คือพลัง อันยิ่งใหญ่ ของศาสนา
คือต้นกล้า ที่เข้มแข็ง แห่งศรัทธา……..คือหน้าตา ของอัล- อิสลาม

รักแท้…….

ภาพความรักของพระเอกนางเอกในละครตอนจบ ดูช่างสวยงามเป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน คงมีคนจำนวนน้อยนัก ที่ไม่คาดหวังชีวิตรักที่ประสบความสำเร็จ ภาพที่เรามักพบเห็นในสังคมคือ ชายหญิงเดินเกาะเกี่ยวกันเป็นคู่ แตะเนื้อต้องตัวกันเป็นเรื่องธรรมดา กอดซบกันไม่ใช่เรื่องแปลก ..นี่คือสิ่งที่สะท้อนความเสื่อมถอยของสังคม แม้แต่ “มุสลิม” ที่ได้ชื่อว่าผู้น้อมรับยอมจำนนต่อคำบัญชาของอัลลอฮฺโดยสิ้นเชิง ก็ยังปล่อยให้ค่านิยมในสังคมที่เสื่อมถอยเข้าแทรกแซงการยึดมั่นปฏิบัติตามหลักการ … หนุ่มสาวจำนวนมากคบหากันอย่างเลยเถิดก่อนนิกะฮฺ เอาระบบแฟนมาใช้โดยไม่ใยดีความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงานที่อิสลามรักษา … การคุยโทรศัพท์ระหว่างชายหญิงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่สร้างความจำเป็นขึ้นมาอ้างได้เสมอ ทั้งที่อิสลามมีกรอบ ขอบเขตวางไว้ชัดเจน … รูปแบบการทำงานอิสลามไม่แบ่งแยกชายหญิง อ้างว่ากลัวทำให้เครียด ทั้งที่สิ่งนี้คือหลักการของอัลลอฮฺ ฯลฯ “ความรัก” มักถูกแสดงออกด้วยการแบ่งปันความรู้สึกดีๆ ต่อคนรัก มีความสุขเมื่อเขาทำดีและเมื่อมีสิ่งดีประสบกับเขา มีความทุกข์เมื่อเขาทำผิดและเมื่อมีสิ่งเลวร้ายประสบกับเขา ช่วยเหลือและสนับสนุนกันและกันในเรื่องของความดี ตักเตือนห้ามปรามกันและกันในเรื่องของความชั่ว … เช่นนี้ความรักย่อมเป็นสิ่งดียิ่ง แต่หากสิ่งเหล่านี้ ถูกแสดงออกกับคนที่ไม่หะลาล เวลาที่ไม่หะลาล และรูปแบบที่ไม่หะลาลแล้ว … ยังจะเรียกว่า “ความรัก” อีกหรือ? แน่นอนว่าการแสดงความห่วงหาอาทรระหว่างชายหญิงที่ไม่ใช่มะหฺรอมกันนั้น ไม่ใช่ความรัก ไม่ว่าความห่วงใยกันนั้นจะแสดงออกมาในรูปแบบที่คิดว่าดี เช่น โทรปลุกละหมาดตะฮัจญุด คุยกัน (เป็นว่าเล่น)เพื่อตักเตือนกันเรื่องศาสนา ถามไถ่เรื่องส่วนตัวทั้งที่ไม่ใช่ธุระ ฯลฯ โดยคิดว่าถ้าเป็นเรื่องศาสนาแล้วล่ะก็ … ดี ทำได้! … ทั้งที่เมื่อตัดข้ออ้างเรื่องศาสนาออกไป ก็จะพบว่าไม่ต่างอะไรกับระบบแฟนของคนกาเฟร เรามักจะเอาแต่วาดฝันภาพสวยงาม อยากได้สิ่งนั้น อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่ค่อยย้อนกลับมามองดูตัวเองว่าสมควรแค่ไหนที่จะได้รับสิ่งเหล่านั้น? … เราปรารถนาความรักที่สวยงาม แต่กำลังใช้จ่ายความรักไปอย่างเลอะเทอะ ไม่ได้ทะนุถนอมไว้เพื่อแสดงออกในเวลาและต่อบุคคลที่เหมาะสม … เราปรารถนาคู่ครองที่ดี แต่ไม่ได้ทำอะไรแม้เพียงวิงวอนดุอาอฺอย่างจริงใจต่ออัลลอฮฺ … เช่นนี้แล้ว ความรักของเราจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?

เคล็ด(ไม่)ลับในการเรียนของมุสลิมให้ประสบความสำเร็จ

10 ขั้นตอน สำหรับความสำเร็จในการเรียนของมุสลิม

1. ให้สร้างความตั้งใจ ว่า ทุกสิ่งที่เราจะทำในชีวิตของเรา (เรียน) นั้นเป็นการทำเพื่ออัลลอฮฺ (ซ.บ) เพื่อแสวงหาความโปรดปรานของพระองค์ เพื่อสวรรค์ที่จะได้รับ (ด้วยความบริสุทธิ์ใจ) ถ้าพระองค์ไม่ให้เรา เราก็คงไม่ได้รับสิ่งดีงามต่างๆ ความสำเร็จอยู่อัลลอฮฺจริงมั้ยคะ? ที่สำคัญหน้าที่ของมุสลิม คือ การเผยแพร่สัจธรรมของพระองค์ อย่าลืมหาทางเผยแพร่ศาสนาให้กับเพื่อน อาจจะตอบปัญหาอิสลามที่เพื่อนสงสัย เช่น ทำไมอิสลามจึงห้ามกินหมู เป็นต้น

2. หลังจากผ่านข้อ 1 เราจะรู้สึกว่า เมื่อเราทำเพื่ออัลลอฮฺและแสวงหาความโปรดปรานจากพระองค์ เราจึงต้องรำลึกถึงความตั้งใจของเราว่าเราทำเพื่อใคร เราจะต้องทำทุกสิ่งให้ดีที่สุด การเรียนของเราก็จะไม่ได้ธรรมดาเหมือนคนทั่วไปแล้วละ เพราะเราเรียนเพื่ออัลลอฮฺ (โห กำลังใจมีขึ้นเป็นกอง ผลตอบแทนไม่ได้แค่โลกนี้อย่างเดียว ได้กำไรคูณสองถึงโลกหน้าเลย) นั่นละเป็นกฎเหล็กของเราเลยที่จะคอยเตือนตัวเองเวลาอยากโดดเรียนหรือขี้เกียจอ่านหนังสือ

3. เริ่มจัดตารางและแบ่งเวลาสำหรับการอ่านหนังสือ ทบทวนวิชาที่เรียน และแบ่งเวลาออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายนั้น ทางการแพทย์กล่าวว่า จะมีสารตัวหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่น จะได้มีกำลังอ่านหนังสือได้เยอะๆ และจะได้มีสุขภาพที่ดีในการทำอามาลอิบาดะฮฺ (ความดี) เพื่ออัลลอฮฺได้มากๆด้วยไง

4.สำหรับเวลาในการอ่านหนังสือ ต้องจัดแบ่งให้ดี อย่าดึกจนเกินไป เดี๋ยวไม่ตื่นละหมาดซุบฮิ ขอแนะนำว่าไม่ควรอ่านเกิน22.00 เพื่อที่เราจะได้ตื่นมาละหมาดกิยามุลลัยนฺ(ละหมาดกลางคืนก่อนเวลาละหมาดซุบฮิ) เพื่อขอบคุณที่พระองค์เมตตาต่อเราให้เราได้รับสิ่งที่ดีงามพร้อมกับวิงวอนขอในสิ่งที่อยากได้ เช่น ขอให้ได้ เกรด 4.00 ขอให้ได้คู่ครองที่ดี ขอให้ได้เข้าสวรรค์ ฯลฯ และถ้ามีเวลาว่างหลังจากละหมาดซุบฮิแล้วจะดีมาก เพราะช่วงเวลานั้นจะเป็นช่วงที่อัลลอฮฺเปิดสมองและยังเป็นการทำตามซุนนะท่านนบีที่ไม่ได้นอนต่อหลังจากซุบฮิ ท่านจะนอนหลังจากละหมาดดุฮฺริ

5. และอย่าลืมแบ่งเวลาสำหรับการศึกษาอัล กุรอาน เพราะกุรอานนั่นแหละ คือ แนวทางสำหรับการดำรงชีวิตของเราและศาสตร์สาขาต่างๆนั้นมีมากมายในกุรอาน ใครที่เข้าใจจดจำกุรอานและปฏิบัติตามกุรอานได้ วิชาไหนๆก็ไม่ยากเกินไปสำหรับเขาแล้ว จริงมั้ยคะ

6. เวลาเรียนในห้องเรียน ให้ตั้งใจ ฟัง จด และเข้าใจ และถ้ามีเวลาว่างหลังจากหมดวิชานั้นก็ทบทวน จะได้ไม่ลืม

7. การเรียนในวิชาใดที่ขัดต่ออิสลาม ให้จดจำไว้ และพยายามคิดอยู่เสมอว่าเราจะนำอิสลามเข้าไปฟื้นฟูได้ในทางใดบ้าง และอย่าปฏิบัติตามสิ่งที่เรียนแล้วขัดต่ออิสลาม

8. ถ้าอาจารย์ให้ออกมาทำในสิ่งที่ขัดต่ออิสลาม เช่น ให้ออกมาร้องเพลงหน้าห้อง หรือ ออกมารายงานทำงานกับเพื่อนแล้วอาจจะมีการถูกเนื้อตัว จงอธิบายให้อาจารย์เข้าใจว่าเราไม่สามารถทำได้เนื่องจากหลักการอิสลามกำหนดห้ามไว้ และรำลึกถึงอัลลอฮฺอยู่ตลอดเวลาว่าพระองค์ทรงมองดูเราอยู่

9. จงยืนหยัด ไม่ว่าเราจะเป็น มุสลิมเพียงคนเดียวหรือสองคนในคณะหรือมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียน เราจะมีความสุขหากเรารำลึกถึงพระองค์อยู่เสมอ ว่าเราได้ทำหน้าที่ที่อัลลอฮฺกำหนดให้ นั่นก็คือ เคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ลองทำดู แล้วเราจะได้สัมผัสถึงความโปรดปรานของอัลลอฮฺอย่างมากมายเลยละ

10. หลังจากทำทุกอย่างอย่างเต็มที่แล้ว จงตะวักกัล (มอบหมาย) เพระเป็นหน้าที่ของอัลลอฮฺแล้วละว่าพระองค์จะทรงประทานให้เราในสิ่งใด แน่นอน พระองค์ทรงเป็นผู้ยุติธรรม และก็อย่าสิ้นหวังในความเมตตาของพระองค์ หากไม่ได้ในโลกนี้พระองค์ก็จะเพิ่มพูนให้ในโลกหน้า และพระองค์จะประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้กับมุสลิมผู้ศรัทธาทุกคน

เป็นงัยค่ะ 10 ขั้นตอนง่ายๆของผู้ศรัทธา สามารถใช้ได้กับการทำงานทุกๆการงานได้ หากทำข้อ 1 ผ่าน เราก็สามารถที่จะทำทุกอย่างได้โดยง่ายเลยละคะ……….. อินชาอัลลอฮฺ

ใยเล่ามุสลิมะฮฺ???

มุสลิมะฮฺ ใยเล่าเจ้า ในวันนี้
มิหวงแหน สิ่งที่มี ค่านักหนา
เรือนร่างเจ้า ไหนเล่า จะหน้าตา
อยากจะรู้ เจ้าศรัทธา ในสิ่งใด
><<>><<>><<>><
พระเจ้า เจ้าเกรงกลัว บ้างหรือไม่
อัลกุรอาน เจ้าได้ต้อง บ้างไหมหนอ
สิ่งบัญญัติ เทียบได้หรือ คำยกยอ
ขอเธอจง ไตร่ตรอง ลองคิดดู
><<>><<>><<>>< ><<>
ประการแรก เจ้าเกิดมา เพื่อใครหรือ
ยามวอนขอ เขาคือใคร ผู้ช่วยเหลือ
มิใช่ อัลลอฮฺหรือ ผู้จุนเจือ
ไม่เชื่อ อัลลอฮฺหรือ ผู้สร้างเธอ
><<>><<>><<>>< ><<>>
มีคำตอบ บ้างไหม ในใจเจ้า
สิ่งขัดเกลา หัวใจ หายกระด้าง
มีหรือไม่ ในหัวใจ ยามเดินทาง
พระผู้สร้าง หนึ่งเดียว ที่แท้จริง
><<>><<>><<>>< ><<>
มุสลิมะฮฺ คิดเถิดเจ้า ในวันนี้
หวงสิ่งดี มีค่า สักนิดไหม
ร่างกายเจ้า รูปหน้า และจิตใจ
มีเพื่อใคร ค้นคำตอบ เพื่อตัวเอง

คัดลอกมาจาก HORIZON<

เพราะเธอคือ....นิสิตมุสลิมะฮฺ


มีหลายครั้ง...ที่ภาพของ นิสิตมุสลิมะฮฺ คลุมฮิญาบ สวมเสื้อแขนยาว กระโปรงยาว สวมถุงเท้าและรองเท้า อย่างเรียบร้อย ปรากฏเด่นชัด ในสถานที่ต่างๆของมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียน ห้องบรรยาย ห้องปฏิบัติการ โรงอาหาร.....ฯลฯ ภาพมุสลิมะฮฺที่อยู่ตามสถานที่เหล่านั้น ไม่เพียงแค่บ่งบอกถึงความเป็น นัจมะฮฺ ฮุสนา ลีนา หรือว่า ตัสนีม เท่านั้น แต่นั่นหมายถึง ภาพลักษณ์ของมุสลิม!!! ที่สายตาทุกคู่มองมา…
เป็นที่ทราบกันดีว่า สังคมในปัจจุบันการันตี ”ความเป็นมุสลิม” ไว้ที่...ผู้ก่อการร้าย ผู้ก่อความไม่สงบ ผู้วางระเบิด ....เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถูกยัดเหยียดให้กับพวกเรา โดยไม่ต้องถามความสมัครใจ
พี่น้องมุสลิมะฮฺที่รัก....เพียงพลังน้อยๆของเธอคงไม่สามารถเปลี่ยนความเป็นไปบนโลกใบนี้ได้ แต่เธออาจปรับเปลี่ยนความเข้าใจ และทัศนคติของคนรอบข้างให้ รู้จัก”มุสลิม” อย่างถูกต้องกว่านี้ได้ ด้วยคำพูด การกระทำ และทุกอิริยบทที่แสดงออกไป เพราะ “อิสลาม” ได้วางรากฐานการดำเนินชีวิตที่วิเศษสุดๆไว้ กับพวกเราแล้ว เพียงแค่เธอหยิบมาใช้ นำมาปฏิบัติ.... สิ่งดีงามเหล่านั้นจะเป็นที่ประจักษ์กับสายตาคนทั้งหลายเอง
พี่น้องมุสลิมะฮฺที่รัก.... การวางตัวที่เหมาะสมของเธอ เป็นจุดเริ่มต้นในการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย เพราะเรามี ”จุดยืน” ที่ชัดเจน สิ่งใดเป็นที่อนุมัติ เราก็สามารถร่วมกระทำสิ่งนั้นๆได้ แต่หากสิ่งใดเป็นที่ต้องห้ามแล้ว จงรีบ ปฎิเสธอย่างจริงจัง อย่าเกรงกลัวผู้ใด หากพวกเค้าก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ ไม่ใช่ ”ผู้ทรงสร้างพวกเรา” ขึ้นมา
พี่น้องมุสลิมะฮฺที่รัก.... อย่าให้สังคมจอมปลอม ค่านิยมจอมจุ้น สิ่งยั่วยุจอมเจ้าเล่ห์ มาทำลายหรือกัดกร่อนความเป็นอิสลามในตัวเธอ อย่าหวั่นไหวกับสิ่งไร้สาระที่จะนำพาพวกเธออ่อนแอ จงเข้มแข็งและมั่นคงในเส้นทางที่เธอกำลังเดินอยู่ แม้เส้นทางนั้นจะไม่ได้โรยด้วยกลีบทานตะวันก็ตาม....
พี่น้องมุสลิมะฮฺที่รัก....ผู้หญิงสวยและน่ารักมีเยอะแล้ว... แต่ผู้หญิงที่มีค่า และควรค่าแก่การให้เกียรตินี่ซิ!! ที่อิสลามต้องการ จงรักษาความสวยในอีม่านของพวกเธอ ความสดใสในการทำอิบาดะฮฺ และความงดงามในการศึกษาและเผยแผ่สัจธรรม เพื่อเป็นเครื่องเสบียงที่มีค่า มากกว่าเครื่องสำอาง ซึ่งจะอยู่คู่กับตัวเธอตลอดไป.... พี่น้องมุสลิมะฮฺที่รัก.... จงอย่าประมาทในการมีชีวิต เพราะทุกลมหายใจของเรามีค่า เกินกว่าที่จะหายใจเข้า-ออกไปวันๆ อย่าลืมนะว่า....เราเป็นใคร ? และกำลังทำอะไรอยู่ ? และเราทำสิ่งเหล่านั้นเพื่อใคร ???